การตลาดกับความเป็นมนุษย์

“การตลาดกับความเป็นมนุษย์” (Marketing with Humanity) คำสองคำนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลและไม่เกี่ยวข้องกันเพราะการตลาดก็คือวิธีการหรือกระบวนการทางธุรกิจที่นำสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค เมื่อเป็นเรื่องของธุรกิจแล้วคงหนีไม่พ้นกำไรและผลประโยชน์ ส่วนความเป็นมนุษย์นั้นแตกต่างออกไปไม่ได้มองแต่เรื่องผลตอบแทนจากการกระทำแต่เพียงอย่างเดียวยังมีอารมณ์ความรู้สึกต่างๆมากมายมาเกี่ยวข้องกัน เเล้วสองสิ่งนี้จะสัมพันธ์กันอย่างไร

ยุคดิจิทัล 4.0

ในปัจจุบันมักจะเคยได้ยินคำว่ายุค 4.0 กันเป็นประจำการตลาดก็ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 แล้วเช่นกัน หากมองโดยผิวเผินแล้วยุคนี้จะเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี นวัตกรรม สื่อดิจิทัลและต่างๆที่เป็นความใหม่แต่ความจริงแล้วผู้ที่ใช้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆเหล่านี้ก็คือมนุษย์เอง รวมไปถึงมนุษย์จำนวนมากยังมีส่วนรวมกับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันอีกด้วยดังนั้นการศึกษาและทำความเข้าใจมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในยุคนี้เพราะจะทำให้เรารู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อให้สามารถสนองต่อความต้องการได้อย่างถูกต้องและตรงจุด สิ่งนี้ถูกเรียกว่า Human-centric Marketing การตลาดที่ให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์ ซึ่งต่อเนื่องมาจากการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และให้ความสำคัญกับผู้บริโภคนั่นเอง โดยธุรกิจหรือแบรนด์ในยุคปัจจุบันควรจะมีความเป็นมนุษย์กล่าวคือ เข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นมิตร อ่อนไหว พูดคุยด้วยได้ ขายความจริง มีความจริงใจให้กับผู้บริโภคและยอมรับข้อผิดพลาดเพื่อที่จะปรับปรุงต่อไป การทำแบบนี้เพื่อให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งวิธีการที่จะนำมาใช้ในการศึกษามนุษย์ก็คือ Digital –anthropology มีวิธีการดังนี้

Digital anthropology
วิธีศึกษาการตลาด กับ ผู้คน

Social listening –  ใช้ Software ในการตรวจสอบสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถนำมาใช้หาคนที่อาจจะเป็นลูกค้าหรือข้อมูลจากผู้บริโภคที่นำมาพัฒนาต่อยอดได้ ขั้นตอนนี้จะใช้วิธีการของ Data Science คือการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) จากข้อมูล Unstructured data ไปสู่ Structured data ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและทำ Data Visualization เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายต่อการนำไปใช้งาน

Netnography – เป็นการศึกษามนุษย์ในกลุ่มสังคมออนไลน์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผู้ที่ทำการศึกษาต้องเข้าไปร่วมอยู่พูดคุยกับกลุ่มชนในโซเชียลมีเดียที่เป็นเป้าหมายเพื่อให้เข้าใจถึงความคิดและความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เหมือนกับการศึกษาวิจัยชาติพันธุ์วรรณา

Emphatic Research – วิธีนี้ทีมที่ทำการวิจัยส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น นักมานุษยวิทยา นักจิตวิทยา เป็นต้น เพราะผู้ที่ใช้วิธีนี้จะต้องเป็นผู้นำในชุมชนออนไลน์ สังเกตพฤติกรรมและพัฒนาการต่างๆด้วยตนเองไปจนถึงการพูดคุยและระดมความคิด

Conclusion

สรุปการตลาดกับความเป็นมนุษย์มีความเกี่ยวข้องกันเนื่องจากผู้บริโภคทุกคนเป็นมนุษย์และยุคดิจิทัลนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลและรับรู้ข้อเท็จจริงมากยิ่งขึ้นรวมถึงการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันที่มากขึ้นอีกด้วยดังนั้นการที่ธุรกิจมีความเป็นมนุษย์จะทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นได้รับความเชื่อถือมากยิ่งขึ้นส่งผลให้เพิ่มโอกาสในทางธุรกิจยิ่งขึ้นนั่นเอง สนใจข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ Marketing เเละ Facebook page Subbrain

ติดตาม SUBBRAIN ได้ที่นี่

Categories: Marketing